กิจกรรมจิตอาสาเนื่องในวันคล้าย วันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 (กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาลำน้ำแม่ทา)
วันที่ 6 ธันวาคม 2566 เวลา 09.30 น. ที่สะพานขาวทาชมภู ตำบลทาปลาดุก อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาเนื่องในวันคล้าย วันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 (กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาลำน้ำแม่ทา) โดยมี นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายโยธิน ประสงค์ความดี ปลัดจังหวัดลำพูน นายประกอบ ยอดยา นายอำเภอแม่ทา หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนจิตอาสาพระราชทาน เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ และจิตอาสาพระราชทาน ร่วมพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 จากนั้นได้ร่วมกัน kick off กำจัดผักตบชวาในลำน้ำแม่ทา โดยจังหวัดลำพูนได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาผักตบชวาและวัชพืชในแหล่งน้ำมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดจากการแพร่กระจายของผักตบชวาและวัชพืชในแหล่งน้ำ รวมทั้งเป็นการขับเคลื่อนและนำแผนตามผังภูมิสังคมไปสู่การปฏิบัติและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายของน้ำ และได้ร่วมกันปลูกผักสวนครัว ตามโครงการพื้นที่ว่างสร้างอาหารของชุมชนบ้านทาชมภู เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567
การจัดกิจกรรม “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” นั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่าปรองดองสามัคคี ร่วมมือร่วมใจกันประกอบกิจกรรมสาธารณะ เพื่อประโยชน์สุขของชุมชนส่วนรวมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ให้มีความรักความผูกพันใน 3 สถาบันหลักของชาติ คือสถาบันชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และให้ประชาชน ประสานความร่วมมือทำงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่า ให้มีส่วนร่วมทำงานแก้ไขปัญหาขั้นพื้นฐานของชาติ ให้คนในชาติ ในชุมชน มีความสุขอย่างยั่งยืน สนองพระราชปณิธานที่ว่า “สืบสาน รักษาและต่อยอดต่อไป”
6